ประโยชน์ : เกี่ยวข้องในการสร้างสารควบคุมการเจริญเติบโต (auxin)
ที่ปลายยอด ช่วยให้พืชแตกตาดอกและตายอด
เพิ่มคุณภาพของผลผลิต แก้ปัญหาการขาดธาตุสังกะสี
แก้อาการใบแก้ว ใบลายในส้ม ช่วยให้พืชทนทานต่อสภาวะ
อากาศหนาวได้ดีขึ้น
พืชไร่ : อ้อย ใช้อัตรา 5-10 กิโลกรัมต่อไร่
ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ใช้อัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อไร่ตอนปลูก
หรือพืชตั้งตัวดีแล้วภายใน 15-20 วันหลังจากงอก
อัตราที่ใส่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของพืชและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ควรจะใช้กับดินทรายหรือดินร่วนทราย ไม่เหมาะกับดินเหนียว
ไม้ผล : เช่นส้ม ทุเรียน มะนาว ลิ้นจี่ ลำใย เงาะ องุ่น และไม้ผลอื่น ๆ
ใช้อัตรา 70-150 กรัมต่อต้น โดยใส่เป็นรูปวงแหวนตามรัศมีแนวพุ่มใบ
หลังจากติดผลแล้วขึ้นกับขนาดและอายุของต้นไม้
พืชผัก : เช่น หอม กระเทียม มะเขือเทศ พริก คะน้า กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี
ใส่ครั้งแรกรองพื้นก่อนปลูก ใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีในอัตรา 1-1.5 กิโลกรัมต่อไร่
โดยหว่านบนร่องแล้วพรวนดินกลบ จึงค่อยปลูกพืช
ใส่ครั้งที่สองหลังจากปลูกแล้วประมาณ 20-25 วัน ใช้ร่วมกับ
ปุ๋ยเคมีในอัตรา 3-5 กิโลกรัมต่อไร่ หว่านให้ทั่วบริเวณแปลง
คำแนะนำ : ก่อนใช้ควรอ่านคำแนะนำเอกสารกำกับปุ๋ยเคมีให้เข้าใจเสียก่อนทุกครั้ง
หากไม่เข้าใจหรือมีปัญหาสงสัยให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร
หรือกรมส่งเสริมในท้องถิ่น เพื่อให้การใช้ปุ๋ยเคมีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
และไม่ควรใช้เกินอัตราที่กำหนด เพราะจะเป็นอันตรายกับพืชได้