ประโยชน์ : ป้องกันการขาดธาตุแคลเซียมและโบรอน ช่วยในการแบ่งเซลล์
ส่งเสริมการงอกของเกสรตัวผู้ให้งอกเข้าไปผสมกับไข่ของเกสรตัวเมีย
ช่วยเพิ่มปริมาณการติดผลต่อช่อ รวมทั้งช่วยขยายขนาดของผล
และสามารถป้องกันไม่ให้ผล เถา หรือฝักแตก ทำให้เนื้อแน่น ป้องกันแกนไส้นิ่ม
รสชาติและสีดีขึ้น ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำตาลจากลำต้น ใบ มาสู่ผล และเมล็ด
สามารถเก็บสะสมอาหาร ผลมีการพัฒนาเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์
ลดปัญหาการหลุดร่วงได้
พืชกลุ่มที่ 1 : แตงต่าง ๆ ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา มะเขือต่าง ๆ ผักกาดหอม
ไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้ผลอัตราปุ๋ยเคมีที่ใช้ 20-40 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร
พืชกลุ่มที่ 2 : พืชผักตระกูลกะหล่ำ อัตราปุ๋ยเคมีที่ใช้ 20-50 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร
พืชกลุ่มที่ 3 : พืชหัว หอม แครอท มันฝรั่ง สับปะรด อัตราปุ๋ยเคมีที่ใช้ 20-50 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร
วิธีการใช้ : ควรพ่นให้เป็นละอองเล็ก ๆ พอเปียกทั่วใบและทุก ๆ ส่วนของพืช ทุก ๆ 7-10 วัน
คำแนะนำ : ก่อนใช้ควรอ่านคำแนะนำเอกสารกำกับปุ๋ยเคมีให้เข้าใจเสียก่อนทุกครั้ง
หากไม่เข้าใจหรือมีปัญหาสงสัยให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร
หรือกรมส่งเสริมในท้องถิ่น เพื่อให้การใช้ปุ๋ยเคมีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
และไม่ควรใช้เกินอัตราที่กำหนด เพราะจะเป็นอันตรายกับพืชได้